1. ให้ทุกคนมีงวดส่งงาน (demo โชว์ให้เห็นชัดเจน ถ้าเป็น web ให้มี link ถ้าเป็น app ให้มี App) โดยงวดส่งงานไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ (1 สัปดาห์ ถ้า project ระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน หรือ 2 สัปดาห์ ถ้า project ระยะเวลา เกิน 3 เดือน)
และแต่ละคน ให้คำนวนคะแนนงาน แล้วครบถ้วน ตามแต่ละ Sprint
2. แตกแผนงานเป็น Gantt Chart แต่ให้ละเอียดถึงงานย่อยของแต่ละคน โดยแต่ละคนให้ประเมินให้ละเอียด ถึงระดับ แต่ละงาน ต้องไม่เกิน 3 ชม. ถ้าเกิน 3 ชม. ให้รีบคุยกับหัวหน้างานทันที แสดงว่าทีมงานไม่เข้าใจในงานนั้นๆ ว่าต้องทำไง
3. แต่ละวัน ทุกๆ 10 โมง (หรือตามที่กำหนดร่วมกันในทีม) ให้ update งานกันว่าเมื่อวานทำอะไร วันนี้จะทำอะไร ติดขัดปัญหาตรงไหน
4. ทำ Burn-Down Chart
5. ทำ Sprint Demo + Retrospective
6. ทุกคน รู้งานล่วงหน้า 3 เดือน ว่าจะมีอะไรบ้าง และเข้าใจ Requirement จนจบทั้งหมด (ปกติ Programmer จะชอบทยอยๆ ดูทีละส่วน ทำให้ไม่เข้าใจงานทั้งหมด)
เพียงเอาไปใช้แค่นี้ให้ถูกต้อง รับรองโอกาสที่งานจะเลท จะไม่ถึง 5% (แต่ปกติจะทำกันมั่วๆ ไปถูกอ่ะนะ
สุดท้ายนี้ การเป็นฟรีแลนส์โปรแกรมเมอร์ คุณจะทำงานที่ไหนก็ได้จริงๆ ลองนึกภาพคุณอาจจะกำลังนอนเอนกาย อาบแสงแดดอ่อนๆบนชายหาด ฟังเสียงคลื่นเสียงทะเลแทนเสียงเพลงในยามเช้า ขณะเดียวกันก็ทำโปรเจคของคุณไปด้วย ถ้าคุณเลือกที่จะพักผ่อนได้ยาวตามใจไร้กำหนด คุณก็ยังสามารถทำงานหาเงินเติมกระเป๋าได้ด้วยเช่นกัน ทั้งหมดเหล่านี้ต้องขอขอบคุณ โลกอินเตอร์เนต อุปกรณ์ไอที และเหล่าแกดเจ็ตต่างๆที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้เราได้มีชีวิตที่สะดวกสบายให้คุณสามารถทำโปรเจคในขณะที่คุณกำลังเดินทางสู่จุดหมายปลายทางที่คุณตั้งใจ
มันก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว ที่จะต้องลงหลักปักฐานเพื่อทำงานที่ไหนสักแห่ง เพราะต่อไปนี้คุณสามารถเติมเต็มฝันของคุณในการท่องเที่ยวรอบโลกโดยที่ไม่ต้องทิ้งการทิ้งงาน จริงๆแล้วนี่คือการรวมสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน เดินไปพร้อมๆกันทั้งโลกของงาน และโลกส่วนตัว คุณไม่จำเป็นต้องทนทำงานที่ไม่ถนัดเพื่อจะได้ไปใช้ชีวิตในที่ที่คุณฝัน แต่คุณสามารถทำงานที่โรม หรือ ปารีส หรือ โตเกียว เหมือนทำงานอยู่ที่บ้านอย่างสบายใจ
แม้ดูเหมือนว่าคุณต้องยอมเสีย การสร้างคอนเนคจากกลุ่มเพื่อนร่วมงานของคุณ แต่ถ้าโดยปกติคุณไม่ใช่พวกชอบสังคม หรือ ตามปกติคุณก็ปลีกวิเวกจากสังคมออฟฟิศอยู่แล้ว นี่ก็คงไม่นับว่าเป็นปัญหา ดีเสียอีก เพราะนี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ไม่ชอบเข้าสังคม ขนาดการติดต่อสัมพันธ์กับลูกค้าก็ค่อนข้างน้อยถ้าไม่ใช่เรื่องงาน..การเป็นฟรีแลนส์โปรแกรมเมอร์ ก็อาจจะเป็นคำตอบที่ใช่